ในปี 2024 อุตสาหกรรมก่อสร้างกำลังเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการวางแผนและดำเนินงานของผู้ประกอบการและเจ้าของโครงการ ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกส่งผลให้โครงการก่อสร้างกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่เกิดจากราคาวัสดุที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของรัฐบาลยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ผู้รับเหมาก่อสร้างและเจ้าของโครงการจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในตลาดการก่อสร้าง
บทความนี้จะนำเสนอปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม ความท้าทายและโอกาสในตลาด และการปรับตัวของผู้ประกอบการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในปี 2025
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2024 คือราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยนี้มีสาเหตุจากความไม่แน่นอนของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ความผันผวนของราคาน้ำมันและโลหะ เช่น เหล็กและอลูมิเนียม ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้น ผู้รับเหมาจำเป็นต้องปรับปรุงกลยุทธ์การจัดหาวัสดุ และอาจพิจารณาใช้วัสดุทดแทนหรือวัสดุรีไซเคิลเพื่อลดต้นทุน
การสนับสนุนจากรัฐบาล เช่น โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การลดภาษี หรือการเพิ่มสิทธิพิเศษสำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เป็นตัวเร่งให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มความต้องการในอุตสาหกรรมนี้
ด้วยกระแสการใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้างเริ่มหันมาใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น การใช้คอนกรีตแบบลดคาร์บอน การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในอาคาร และการออกแบบอาคารที่สามารถลดการใช้พลังงานได้ การก่อสร้างที่ยั่งยืนจึงกลายเป็นแนวโน้มสำคัญที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
การขาดแคลนแรงงานและวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ ผู้รับเหมาจำเป็นต้องวางแผนการจัดหาวัสดุล่วงหน้าและเพิ่มความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ นอกจากนี้ การขาดแคลนแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญทำให้จำเป็นต้องพิจารณาการฝึกอบรมแรงงานหรือการใช้งานเทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่อช่วยในการก่อสร้าง
เทคโนโลยีในการก่อสร้าง เช่น Building Information Modeling (BIM) และเทคโนโลยี 3D Printing กลายเป็นตัวช่วยที่ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดเวลาการก่อสร้าง ลดข้อผิดพลาดในการออกแบบ และสามารถคาดการณ์ความต้องการวัสดุได้อย่างแม่นยำ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการก่อสร้างจึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ
โครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ทางหลวงใหม่ รถไฟฟ้า และการพัฒนาเมืองใหม่ยังคงเป็นโอกาสสำคัญในปี 2024 โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ผู้ประกอบการที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจะมีโอกาสได้รับโครงการเหล่านี้
อุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2025 ยังคงมีทั้งความท้าทายและโอกาสที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะในด้านการจัดหาวัสดุ การปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ผู้ประกอบการและผู้รับเหมาในอุตสาหกรรมนี้จึงควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงและใช้ประโยชน์จากปัจจัยต่างๆ อย่างเหมาะสม การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
การพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบและการเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรับมือกับความท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำพาอุตสาหกรรมก่อสร้างไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต